The Application of the Flipped Classroom to Enhance Student Motivation for Learning Business Subjects at the International College, Chiang Mai Rajabhat University

Abstract

การวิจัยครั้งนี้จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาแรงจูงใจในการเรียนรู้ของนักศึกษาวิทยาลัยนานาชาติโดยใช้วิธีแบบห้องเรียนกลับด้าน(Flipped Classroom) โดยนักวิจัยได้ใช้แบบจำลอง ARCS ซึ่งประกอบด้วยความสนใจ (Attention) ความเกี่ยวข้อง (Relevance) ความมั่นใจ (Confidence) และความพึงพอใจ (Satisfaction) ในการตรวจสอบระดับแรงจูงใจในการเรียนของนักศึกษา ในการศึกษาครั้งนี้ มีนักศึกษาเข้าร่วมจำนวนทั้งสิ้น 60 คน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม แต่ละกลุ่มได้ลงทะเบียนเรียนต่างวิชากัน โดยมีอาจารย์ผู้สอนวิชาละ 1 ท่าน เพื่อตรวจสอบแรงจูงใจในการเรียนรู้ของนักศึกษาแต่ละกลุ่ม ซึ่งอาจารย์ทุกท่านได้ใช้วิธีการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้าน(Flipped Classroom) สำหรับกลุ่มทดลองทั้งสามกลุ่ม เพื่อเปรียบเทียบผลการวิจัย แบบสอบถามในงานวิจัยนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่งเป็นคำถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับนักศึกษา ส่วนที่สองเป็นคำถามเกี่ยวกับแรงจูงใจในรูปแบบ ARCS โดยใช้การให้คะแนน5 ระดับแบบ Likert scale และส่วนที่สามประกอบด้วยคำถามปลายเปิดสามข้อ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของนักศึกษาต่อวิธีการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้าน(Flipped Classroom) ซึ่งแรงจูงใจในการเรียนรู้ของนักศึกษาได้รับการวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้โปรแกรม SPSS จากผลการวิจัยพบว่านักศึกษามีแรงจูงใจในการเรียนเป็นไปในทิศทางที่ดีเมื่อใช้วิธีการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้าน(Flipped Classroom) เทียบกับวิธีการสอนแบบดั้งเดิม และนักศึกษามีความพึงพอใจในการใช้สื่อการเรียนการสอนในชั้นเรียน นอกจากนี้จากการวิเคราะห์เนื้อหาในส่วนที่สามของแบบสอบถามนักศึกษายังกล่าวอีกว่าห้องเรียนกลับด้าน(Flipped Classroom)เป็นวิธีการที่น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตามนักศึกษาคาดหวังว่าการจัดทำวิดีโอบทเรียนจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น