Please use this identifier to cite or link to this item:
http://cmruir.cmru.ac.th/handle/123456789/707
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | ศิริจันทร์ชื่น, มนตรี | - |
dc.date.accessioned | 2017-12-12T04:30:30Z | - |
dc.date.available | 2017-12-12T04:30:30Z | - |
dc.date.issued | 2549 | - |
dc.identifier.uri | http://cmruir.cmru.ac.th/handle/123456789/707 | - |
dc.description | การศึกษาปัจจัยในการสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวไทยในเขตชานเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำหนดวัตถุประสงค์สำคัญในการศึกษาไว้ 2 ประการคือ 1. เพื่อศึกษาลักษณะของครอบครัวที่เข้มแข็งและปัจจัยที่ส่งเสริมความเข้มแข็งของครอบครัว 2. เพื่อศึกษาระบบความสัมพันธ์ของบุคคลในครอบครัวและการเสนอรูปแบบแนวคิดในการพัฒนาครอบครัวที่พึงประสงค์ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยได้ศึกษาข้อมูลของครอบครัวตัวอย่างในเขตชานเมืองจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 6 อำเภอ คือ อำเภอแม่ริม อำเภอสันทราย อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอสันกำแพง อำเภอสารภี และอำเภอหางดง โดยให้องค์การบริหารส่วนตำบลคัดเลือกครอบครัวตัวอย่างที่เป็นครอบครัว ที่เข้มแข็งและรวบรวมข้อมูลได้ทั้งหมด 93 ครอบครัว ซึ่งมีผลการศึกษาลักษณะของครอบครัวที่เข้มแข็งและปัจจัยที่สร้างเสริมความเข้มแข็งของครอบครัวมีดังนี้ คือ 1. ครอบครัวที่เข้มแข็งมีลักษณะเหมือนกับครอบครัวไทยโดยทั่วไปในชุมชน เขต ชานเมืองที่เป็นครอบครัวเดี่ยวมีขนาดเล็ก มีฐานะทางเศรษฐกิจระดับปานกลาง ประกอบอาชีพทางด้านการเกษตร รับจ้าง รับราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 5,000-10,000 บาทต่อเดือน ส่วนการศึกษาของหัวหน้าครอบครัวมีการศึกษาส่วนใหญ่ในในระดับประถมศึกษา 2. ปัจจัยที่สร้างเสริมความเข้มแข็งของครอบครัวที่สำคัญคือความรักความอบอุ่น ความสามัคคี ช่วยเหลือกันภายในครอบครัว การเป็นครอบครัวช่วยเหลือสังคม การปลูกฝังค่านิยมและคุณธรรมที่ดีให้กับสมาชิกของครอบครัว และการได้รับการยอมรับว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตของครอบครัวในชุมชน จากการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะพื้นฐานของครอบครัวกับปัจจัยในการสร้างความสำเร็จของครอบครัว พบว่า 1. การศึกษา เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความสำเร็จของครอบครัวที่มีลูกประสบผลสำเร็จ ครอบครัวบริจาคเงินและทรัพย์สิน และครอบครัวที่เป็นแบบอย่างที่ดี 2. ระดับรายได้ เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความสำเร็จของครอบครัวที่มีพ่อเป็นตัวอย่างและเป็นครอบครัวที่ประสบผลสำเร็จในการทำงาน 3. การประกอบอาชีพ เป็นปัจจัยในการสร้างความเข้มแข็งและความสำเร็จของครอบครัวที่มีแม่เป็นตัวอย่าง และเป็นครอบครัวช่วยเหลือสังคม 4. จำนวนบุตร เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความสำเร็จของครอบครัวที่มีแม่เป็นตัวอย่างและครอบครัวที่ประสบผลสำเร็จ ข้อเสนอแนะในการพัฒนาครอบครัวไทยในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง มีข้อเสนอแนะที่สำคัญดังนี้ คือ 1. สร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวโดยการสร้างลักษณะพื้นฐานของครอบครัวด้วยการกำหนดจำนวนสมาชิกของครอบครัวมิให้มีจำนวนมากจนเกินไป ส่งเสริมการศึกษาให้กับสมาชิกของครอบครัว ส่งเสริมให้มีการประกอบอาชีพ และยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจ รายได้ของครอบครัวให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ 2. สร้างปัจจัยภายในครอบครัวให้เข้มแข็งโดยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของสมาชิกของครอบครัวให้มีความรัก ความอบอุ่น มีความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ปลูกฝังค่านิยมและคุณธรรมที่ดีให้กับสมาชิกของครอบครัว 3. ครอบครัวจะต้องทำหน้าที่ช่วยเหลือสังคมในด้านต่าง ๆ และเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตในชุมชน โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ข้อเสนอแนะในการศึกษาความเข้มแข็งของครอบครัวไทย 1. ควรมีการศึกษาเรื่องความสำเร็จและความเข้มแข็งของครอบครัวในเชิงลึกและกว้างขวางให้มากยิ่งขึ้น โดยอาจศึกษาครอบครัวไทยในชนบทหรือในเขตเมืองหรือครอบครัวของแต่ละชนเผ่าในภาคเหนือ 2. ควรมีการศึกษาถึงรูปแบบและวิธีการปลูกฝังค่านิยม คุณธรรมและระบบศีลธรรมให้กับสมาชิกของสังคม 3. ศึกษาวิถีการดำรงชีวิตของครอบครัวในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการศึกษาวิถีการดำรงชีวิตของคนในสังคมแต่ละวัยและโดยเฉพาะการศึกษาวิถีการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น | th_TH |
dc.description.sponsorship | มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ | th_TH |
dc.format.medium | application/pdf | th_TH |
dc.language.iso | th | th_TH |
dc.publisher | Chiang Mai Rajabhat University | th_TH |
dc.rights | ©copyright มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ | th_TH |
dc.title | การศึกษาปัจจัยในการสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวไทยในเขตชานเมือง จังหวัดเชียงใหม่ | th_TH |
dc.type | Research | th_TH |
Appears in Collections: | Research Report |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Cover.pdf | Cover (ปก) | 408.19 kB | Adobe PDF | View/Open |
Abstract.pdf | Abstract (บทคัดย่อ) | 408.05 kB | Adobe PDF | View/Open |
Content.pdf | Content (สารบัญ) | 398.98 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter-1.pdf | Chapter-1 (บทที่1) | 476.14 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter-2.pdf | Chapter-2 (บทที่2) | 847.21 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter-3.pdf | Chapter-3 (บทที่3) | 507.6 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter-4.pdf | Chapter-4 (บทที่4) | 830.51 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chapter-5.pdf | Chapter-5 (บทที่5) | 542.58 kB | Adobe PDF | View/Open |
Bibliography.pdf | Bibliography (บรรณานุุกรม) | 466.43 kB | Adobe PDF | View/Open |
Appendix.pdf | Appendix (ภาคผนวก) | 618.99 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.